Table of Contents
5 สถานที่ยอดฮิตของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ในยุคที่ทุกนาทีมีค่า และการเดินทางไม่ใช่แค่การไปถึงจุดหมาย แต่คือประสบการณ์ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์ ลูกค้า KALEA Lift และ ANTERA Lift มักให้ความสำคัญกับ คุณภาพชีวิต ความสะดวกสบาย และความเป็นเอกลักษณ์ ของทุกการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ หรือการท่องเที่ยวเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ การเลือกปลายทางจึงไม่ใช่แค่ "ไปเที่ยว" แต่เป็นการเติมเต็มรสนิยมและแรงบันดาลใจของตัวเอง
สำหรับใครที่กำลังมองหาประสบการณ์ที่ผสมผสาน ธรรมชาติ วิวสวย และความหรูหราสบาย ๆ สวิตเซอร์แลนด์คือหนึ่งในประเทศที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหล่านี้อย่างลงตัว จากยอดเขาที่เต็มไปด้วยหิมะไปจนถึงเมืองเก่าแก่ที่มีเสน่ห์ บทความนี้จะพาคุณไปสัมผัส 5 สถานที่ยอดฮิตในสวิตเซอร์แลนด์ ที่เหมาะกับผู้ที่รักการผจญภัย แต่ยังคงคุณค่าความสงบและความหรูหราที่เลือกสรรเอง
1. ยอดเขาเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) สัญลักษณ์แห่งสวิตเซอร์แลนด์
ยอดเขาเทอร์ฮอร์น (Matterhorn) สัญลักษณ์แห่งสวิตเซอร์แลนด์
ยอดภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นเป็นสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ที่มีความโดดเด่นด้วยยอดเขาแหลมคมที่สะท้อนลงบนทะเลสาบเล็ก ๆ รอบ ๆ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นกระเช้าไปชมวิวแบบพาโนรามาหรือสัมผัสประสบการณ์ปีนเขาได้ สำหรับคนรักการถ่ายภาพ รับรองว่ามุมนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง
ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น เราพบบ่อย ทุกหนแห่ง แต่เราไม่เคยรู้เลยว่า หมายถึงยอดเขาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เช่น Paramount Picture ค่ายภาพยนต์ชื่อดัง ก็ได้นำวีดีโอแสดงยอดเขา และช็อคโกแลต Toblerone ช็อคโกแลตสัญญาชาติสวิตเซอร์แลนด์ ได้แสดงถึงยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นอีกด้วย
การเดินทาง
แมทเทอร์ฮอร์นตั้งอยู่ในเขต Zermatt ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองปลอดรถยนต์ ทำให้การเดินทางต้องวางแผนดังนี้
- เดินทางโดยรถไฟ
-
-
- จาก ซูริก (Zurich) หรือ เจนีวา (Geneva) สามารถขึ้น รถไฟ Swiss Federal Railways (SBB) ไปยัง Visp จากนั้นเปลี่ยนสายไป Zermatt
- ระยะเวลา: ประมาณ 3–4 ชั่วโมง จากซูริก และ 3 ชั่วโมง จากเจนีวา
-
- เข้าสู่เมือง Zermatt
-
-
- รถยนต์ส่วนตัวไม่สามารถเข้าเมือง Zermatt ได้ ต้องจอดที่ Täsch แล้วต่อรถไฟหรือแท็กซี่ไฟฟ้าไปยัง Zermatt
- รถไฟ Zermatt Shuttle ใช้เวลาเพียง 12 นาที
-
- ขึ้นสู่แมทเทอร์ฮอร์น
-
- จาก Zermatt สามารถขึ้น กระเช้าลอยฟ้า Matterhorn Glacier Paradise (Klein Matterhorn) ซึ่งเป็นจุดชมวิวสูงที่สุดในยุโรป
- นอกจากนี้ยังมี กระเช้า Gornergrat Bahn ให้ชมวิวแมทเทอร์ฮอร์นจากมุมสูงแบบพาโนรามา
สิ่งน่าสนใจ
- ยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น
- ยอดเขาที่สูง 4,478 เมตร เป็นสัญลักษณ์ของสวิตเซอร์แลนด์ และเป็นจุดที่นักปีนเขาใฝ่ฝันจะขึ้นไป
- Matterhorn Glacier Paradise
- จุดชมวิวสูงสุดของยุโรป สามารถชมวิวภูเขา 38 ยอดเขาและธารน้ำแข็ง
- มีกิจกรรม สกีตลอดปี และ ถ้ำหิมะ (Ice Palace)
- Gornergrat Railway
- รถไฟขึ้นเขาที่สร้างมาตั้งแต่ปี 1898 วิ่งขึ้นไปยังจุดชมวิว Gornergrat
- เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากปีนเขา แต่ต้องการชมวิวแมทเทอร์ฮอร์นแบบพาโนรามา
- ทะเลสาบ Riffelsee
- ทะเลสาบเล็กใสสะท้อนยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์น เป็นมุมถ่ายรูปยอดนิยม
- กิจกรรมปีนเขาและเดินป่า
- สำหรับผู้ชอบผจญภัย มีเส้นทางเดินป่าระดับต่าง ๆ รวมถึงเส้นทางปีนเขาแบบมืออาชีพ
2. ซูริก (Zurich) เมืองที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์
เมืองใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ซูริกไม่ได้มีดีแค่ความทันสมัย แต่ยังมีเมืองเก่า (Old Town) ที่เต็มไปด้วยตรอกเล็ก ๆ ร้านกาแฟ และร้านอาหารท้องถิ่น สายช้อปต้องชอบ Bahnhofstrasse ถนนช้อปปิ้งชื่อดังระดับโลก
การเดินทาง
ซูริกเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดและเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของสวิตเซอร์แลนด์ การเดินทางมาถึงซูริกทำได้สะดวกมาก:
โดยเครื่องบิน สนามบิน Zurich Airport (ZRH) เป็นสนามบินนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีไฟลท์ตรงจากหลายเมืองใหญ่ในยุโรปและเอเชีย
โดยรถไฟ ซูริกเป็นจุดศูนย์กลางของเครือข่ายรถไฟสวิส (SBB) สามารถนั่งรถไฟตรงจาก เจนีวา, ลูเซิร์น, อินเตอร์ลาเคน ได้สะดวก
จาก เจนีวา → ซูริก ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
จาก ลูเซิร์น → ซูริก ใช้เวลาประมาณ 50 นาที
การเดินทางในเมือง ซูริกมีระบบ รถราง (Tram) และ รถบัส ที่ครอบคลุมทั้งเมือง รวมถึงเรือโดยสารในทะเลสาบซูริก
สิ่งน่าสนใจ
เมืองเก่า (Altstadt / Old Town)
ตรอกเล็ก ๆ ที่ปูด้วยหินโบราณ เต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมยุคกลาง
มีคาเฟ่ บาร์ ร้านอาหารสวิสแท้ ๆ และแกลเลอรี่ศิลปะ
Bahnhofstrasse
ถนนช้อปปิ้งหรูติดอันดับโลก เต็มไปด้วยแบรนด์เนมดัง ๆ อย่าง Chanel, Louis Vuitton และร้านนาฬิกาสวิสชื่อดัง
เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบความหรูหราและช้อปปิ้งแบบพรีเมียม
ทะเลสาบซูริก (Lake Zurich)
จุดพักผ่อนยอดนิยมของคนเมือง
สามารถล่องเรือ, เดินเล่นริมฝั่ง หรือปั่นจักรยานชมวิวได้
Grossmünster
โบสถ์ประจำเมืองที่มีหอคอยคู่ (Twin Towers) อันเป็นสัญลักษณ์
สามารถขึ้นไปบนหอคอยเพื่อชมวิวเมืองได้
Kunsthaus Zürich (พิพิธภัณฑ์ศิลปะ)
รวบรวมผลงานศิลปะสวิสและยุโรป ตั้งแต่ยุคกลางจนถึงศิลปะร่วมสมัย
มีงานของ Monet, Picasso และ Chagall
อาหารท้องถิ่น
อย่าพลาดลองเมนู Zürcher Geschnetzeltes (เนื้อลูกวัวผัดซอสไวน์ขาวและครีม) เสิร์ฟคู่ Rösti
ช็อกโกแลตและชีสสวิสก็ห้ามพลาดเช่นกัน
3. ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองแห่งธรรมชาติของสวิสเซอร์แลนด์
ลูเซิร์น (Lucerne) เมืองแห่งธรรมชาติของสวิสเซอร์แลนด์
เมืองเล็กที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งทะเลสาบและภูเขา มีสะพานไม้โบราณ "Kapellbrücke" ที่เป็นเอกลักษณ์และหอคอยน้ำ (Wasserturm) สำหรับใครที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้ง สามารถนั่งเรือชมทะเลสาบหรือขึ้นกระเช้าสู่ภูเขาพิลาตุส (Mount Pilatus) เพื่อชมวิวได้
การเดินทาง
ลูเซิร์นเป็นเมืองเล็กที่ตั้งอยู่ริมทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne) รายล้อมด้วยภูเขา ทำให้บรรยากาศโรแมนติกและเงียบสงบ
- จากซูริก (Zurich)
- นั่งรถไฟตรงจากสถานี Zurich HB ไปยัง Lucerne ใช้เวลาประมาณ 45–60 นาที
- เป็นเส้นทางรถไฟที่สวย เห็นวิวทะเลสาบและหุบเขา
- จากเจนีวา (Geneva)
- ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดยรถไฟ ต้องเปลี่ยนขบวนที่ Zurich หรือ Bern
- การเดินทางในเมืองทำได้ง่าย สามารถเดินหรือใช้รถบัสท้องถิ่น และยังมีเรือโดยสารในทะเลสาบ
สิ่งน่าสนใจ
- Kapellbrücke (สะพานไม้ชาเพล)
- แลนด์มาร์กของลูเซิร์น เป็นสะพานไม้โบราณสร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 14
- ภายในสะพานมีภาพวาดโบราณเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ของเมือง
- Wasserturm (หอคอยน้ำ)
- อยู่ติดกับสะพานชาเพล เคยใช้เป็นหอคอยป้องกัน, คลังเก็บสมบัติ และคุกในสมัยก่อน
- ปัจจุบันเป็นสัญลักษณ์คู่กับสะพาน Kapellbrücke
- ทะเลสาบลูเซิร์น (Lake Lucerne)
- สามารถนั่งเรือชมวิวภูเขาและหมู่บ้านรอบ ๆ ทะเลสาบ
- บรรยากาศโรแมนติก เหมาะกับการพักผ่อน
- ภูเขาพิลาตุส (Mount Pilatus)
- นั่งกระเช้าหรือรถไฟล้อเฟือง (Pilatusbahn) ที่ชันที่สุดในโลกขึ้นสู่ยอดเขา
- จากด้านบนสามารถชมวิวพาโนรามาของเทือกเขาแอลป์และทะเลสาบได้
- Lion Monument (อนุสาวรีย์สิงโต)
- อนุสรณ์สถานสลักหินแกะเป็นสิงโตบาดเจ็บ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารสวิสที่เสียชีวิตในการปฏิวัติฝรั่งเศส
- เป็นสถานที่ที่มีบรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยความหมายทางประวัติศาสตร์
- Old Town (Altstadt)
- เมืองเก่าที่มีสีสัน เต็มไปด้วยอาคารปูนปั้นลายจิตรกรรมและร้านบูติกเล็ก ๆ
- เหมาะกับการเดินเล่น ถ่ายรูป และนั่งคาเฟ่
4. กรินเดลวัลด์ (Grindelwald) สวรรค์ของนักเดินป่าและนักสกีของสวิสเซอร์แลนด์
กรินเดลวัลด์ (Grindelwald) สวรรค์ของนักเดินป่าและนักสกีของสวิสเซอร์แลนด์
สวรรค์ของนักเดินป่าและนักสกี ตั้งอยู่ในแถบยูงเฟรา (Jungfrau Region) จุดเด่นคือวิวภูเขาหิมะและทุ่งหญ้าสีเขียว มีเส้นทางเดินป่าหลากหลายระดับ รวมถึงกิจกรรมผจญภัย เช่น กระเช้า, รถไฟขึ้นเขา และสกีฤดูหนาว
ชื่อหมู่บ้านนี้ คุ้นๆ แน่นอนว่า เป็นส่วนหนึ่งของภาพยนต์ชื่อดังอย่าง Harry Potter เป็นหมู่บ้านที่ปรากฏในภาพยนตร์ "Fantastic Beasts and Where to Find Them" และเป็นชื่อของพ่อมดร้าย เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์. อย่างไรก็ตาม หมู่บ้านกรินเดลวัลด์ในโลกจริง เป็นหมู่บ้านที่สวยงามในเทือกเขาแอลป์ของประเทศสวิตเซอร์แลนด์
การเดินทาง
กรินเดลวัลด์ตั้งอยู่ในแถบ Jungfrau Region ของรัฐเบิร์น (Bernese Oberland) รายล้อมด้วยภูเขาสูง ทำให้เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่มีทิวทัศน์งดงามที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์
- จากซูริก (Zurich)
- นั่งรถไฟจาก Zurich HB → Interlaken Ost → Grindelwald
- ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- จากลูเซิร์น (Lucerne)
- เดินทางโดยรถไฟประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
- ในตัวหมู่บ้าน การเดินทางส่วนใหญ่ใช้รถบัสท้องถิ่น หรือกระเช้าขึ้นเขา
สิ่งน่าสนใจ
- First Cliff Walk by Tissot
- สะพานแขวนโลหะและทางเดินริมหน้าผา ให้คุณเดินชมวิวแบบ 360° ของเทือกเขาแอลป์
- เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของนักท่องเที่ยว
- Jungfraujoch – Top of Europe
- ขึ้นรถไฟจาก Grindelwald ไปยังสถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป (3,454 เมตร)
- สามารถชมวิวธารน้ำแข็ง Aletsch Glacier และเล่นกิจกรรมหิมะได้ตลอดทั้งปี
- กิจกรรมฤดูร้อน
- เส้นทางเดินป่าและเส้นทางจักรยานมากมาย เช่น เส้นทางไปยัง Bachalpsee Lake ที่มีวิวแมทเทอร์ฮอร์นสะท้อนในน้ำ
- กิจกรรมแอดเวนเจอร์ เช่น Paragliding, Mountain Cart, Trottibike Scooter
- กิจกรรมฤดูหนาว
- สกีรีสอร์ทชื่อดังที่มีเส้นทางเล่นสกีหลายระดับ รวมระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร
- Snowboarding และ Sledging (เลื่อนหิมะ) ก็เป็นที่นิยม
- Pfingstegg Toboggan Run
- สไลด์รถรางเล็กบนรางกลางหุบเขา สนุกได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
- หมู่บ้านกรินเดลวัลด์
- ตัวหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยบ้านไม้สวิสแบบดั้งเดิม ร้านอาหาร และคาเฟ่วิวภูเขา
- เหมาะกับการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศแอลป์แท้ ๆ
5. เจนีวา (Geneva) เมืองริมทะเลสาบและศูนย์กลางทางการฑูต
เจนีวา (Geneva) เมืองริมทะเลสาบและศูนย์กลางทางการฑูต
เมืองริมทะเลสาบที่มีความสำคัญทั้งด้านการทูตและวัฒนธรรม ไฮไลท์คือ Jet d'Eau น้ำพุขนาดยักษ์กลางทะเลสาบเจนีวา และพิพิธภัณฑ์สหประชาชาติ (United Nations Office) นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเล่นตามสวนสาธารณะริมทะเลสาบและลิ้มรสอาหารฝรั่งเศส-สวิสได้อย่างเพลิดเพลิน
การเดินทาง
เจนีวาเป็นเมืองใหญ่ทางตะวันตกของสวิตเซอร์แลนด์ ติดชายแดนฝรั่งเศส เดินทางสะดวกทั้งทางอากาศและรถไฟ
- โดยเครื่องบิน
สนามบิน Geneva Airport (GVA) มีไฟลท์ตรงจากเมืองใหญ่ ๆ ในยุโรป รวมถึงสายการบินระหว่างทวีป - โดยรถไฟ
- จาก ซูริก (Zurich) → Geneva ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
- จาก ลูเซิร์น (Lucerne) → Geneva ใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมง
- ภายในเมือง สามารถใช้ รถราง, รถบัส และเรือโดยสาร ในทะเลสาบเพื่อเดินทางได้ง่าย
สิ่งน่าสนใจ
- Jet d'Eau (เจ็ทโดว์)
- น้ำพุขนาดยักษ์กลางทะเลสาบเจนีวา พ่นน้ำสูงกว่า 140 เมตร
- เป็นแลนด์มาร์กของเมืองและจุดถ่ายรูปยอดนิยม
- United Nations Office at Geneva (UNOG)
- อาคาร Palais des Nations สำนักงานสหประชาชาติแห่งยุโรป
- เปิดให้เข้าชมรอบทัวร์ภายใน เพื่อเรียนรู้เรื่องการทูตและการทำงานขององค์กรนานาชาติ
- ทะเลสาบเจนีวา (Lake Geneva / Lac Léman)
- ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์เทือกเขาแอลป์และไร่องุ่นริมฝั่ง
- เดินเล่นหรือปั่นจักรยานตามเส้นทางเลียบทะเลสาบ
- Old Town (Vieille Ville)
- เมืองเก่าที่เต็มไปด้วยถนนหินโบราณ, จัตุรัสเล็ก ๆ และคาเฟ่กลางแจ้ง
- ไฮไลท์คือ มหาวิหาร St. Pierre Cathedral ที่สามารถขึ้นไปชมวิวเมืองจากหอคอย
- Patek Philippe Museum
- พิพิธภัณฑ์นาฬิกาหรูของสวิตเซอร์แลนด์ แสดงประวัติศาสตร์และผลงานนาฬิกาสุดประณีต
- สวรรค์ของคนรักนาฬิกาและงานฝีมือ
- สวนและพื้นที่สีเขียว
- Parc des Bastions มีอนุสาวรีย์ Reformation Wall และเป็นที่พักผ่อนยอดนิยม
- English Garden (Jardin Anglais) มีนาฬิกาดอกไม้ (Flower Clock) ที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์
- อาหารท้องถิ่น
- เจนีวามีอิทธิพลของอาหารฝรั่งเศสผสมสวิส เช่น ชีสฟองดู (Fondue), ราเคล็ต (Raclette) และไวน์ท้องถิ่น
- มีร้านอาหารหรูติดดาวมิชลินหลายแห่ง เหมาะสำหรับสาย Fine Dining
ลิฟท์หรู ตอบโจทย์การติดตั้งให้กับบ้านหรู คอนโด วิลลา และบ้านพักตากอากาศ
ลิฟท์ที่สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในอาคาร (Indoor) และภายนอก (Outdoor) ได้อย่างลงตัว ที่ได้รวบรวมผลงาน และนวัตกรรมการออกแบบสุดหรู และสร้างสรร "ผลงานชิ้นเอกจากธรรมชาติ" อย่างแท้จริง
KOSMOS K SERIES
ลิฟต์ KOSMOS K SERIES มี 3 รุ่นสุดฮิตอย่าง KOSMOS K60, KOSMOS K70 และ KOSMOS K90 จะช่วยทำให้ลิฟต์สัมผัสความหรูหรา ที่มาพร้อมปล่องกระจก รอบแบบพาโนรามา
สีของปล่องลิฟต์มีให้เลือกทั้งแบบสีพรีเมี่ยมที่มี ทำให้ลิฟต์ของคุณดูหรูหราสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมผนังของห้องโดยสารลิฟต์ที่เป็นหนังแท้ตัดเย็บด้วยมือจากอิตาลี ให้เข้ากับดีไซน์บ้านได้อย่างหรูหราสง่างามขั้นสุด มาพร้อมกับประตูเปิดมีทั้งแบบ Saloon Door และ Swing Door ช่วยเพิ่มระดับให้ลิฟต์ของคุณอย่างลงตัว!
KALEA X SERIES
ลิฟต์ที่มาพร้อมปล่องกระจก รอบแบบพาโนรามา สีของปล่องลิฟต์มีให้เลือกทั้งแบบสีพรีเมี่ยมที่มี Glister แวววาวในเนื้อสีทำให้ลิฟต์ของคุณดูหรูหราสวยงามมากยิ่งขึ้น พร้อมผนังของห้องโดยสารลิฟต์ที่เป็นหนังแท้ตัดเย็บด้วยมือจากอิตาลี ให้เข้ากับดีไซน์บ้านได้อย่างหรูหราสง่างามขั้นสุด มาพร้อมกับประตูเป็นแบบ Saloon Door ช่วยเพิ่มระดับให้ลิฟต์ของคุณอย่างลงตัว!
ANTERA Z SERIES
ANTERA Z Series มีทั้งหมด 3 แบบ โดย ANTERA Z90 เป็นลิฟท์ห้องโดยสารมาพร้อมปล่อง ANTERA Z85 เป็นลิฟต์แพลตฟอร์มสำหรับผู้ที่มีปล่องลิฟต์อยู่แล้ว และ ANTERA Z70 เป็นลิฟท์แบบแพลตฟอร์มสำหรับบ้านที่มีปล่องอยู่แล้ว ลิฟท์บ้านสุดหรูอย่างมีระดับ โดยปล่องลิฟต์ใช้สีฝุ่นแบบ พรีเมี่ยม พาวเดอร์โค้ดสุดหรูจากประเทศออสเตรีย แผงปุ่มกดลิฟต์ระบบสัมผัสแบบ Antera LCD Ultra Smart ที่ใช้งาน ง่ายและดีไซน์หรูหราแบบเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เลือกวิดีโอพื้นหลังบนหน้าจอลิฟต์ ระบบล็อคอัจฉริยะ
RELATED PROJECTS | ตัวอย่างโครงการลิฟท์บ้านของเรา
ลิฟท์บ้านพรีเมียม KALEA X80 Limited ผนังหนังแท้
ลิฟท์บ้าน รุ่น KALEA SILK ลิฟท์บ้าน 3 ชั้น
-
ลิฟท์บ้าน รุ่น KOSMOS K70 ลิฟท์บ้าน 2 ชั้น
ลิฟท์บ้าน รุ่น KALEA Klassic ลิฟท์บ้าน 2 ชั้น
บทความของเรา
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ กับลิฟท์บ้านแบรนด์ KALEA Lift & ANTERA Lift ได้ที่
ติดต่อเรา
ลิฟท์แบบแพลตฟอร์ม
(ระบบปุ่มกด)